RTFIM-กลับจากโลกอมตะ-

วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

RFTIW-9-สาวสวยที่ดุร้าย

สาวสวยที่ดุร้าย

"หัวหน้าทำไมคุณไม่เข้าห้องเรียน? หยวนชูหลิงเห็นว่าถังไซหยูกำลังยืนอยู่เงียบๆที่ทางเดินและไม่ได้เข้าไปในห้องเมื่อเขายกโต๊ะและเก้าอี้ของเขาเข้าไปห้อง10
"ตามนิสัยของเสือหูถ้าเขาอ่านรายงานเรื่องย้ายฉันหน้าห้อง  แสดงว่าคนห้อง10 ต้องยังไม่รู้ว่าฉันจะมาที่นี้นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันกำลังรอครูฮั่นมาถึงก่อนที่จะเข้าห้อง ถ้าอย่างนั้นฉันจะมีปัญหากับพวกเขาได้  "แม้ว่า ถังไซหยูจะตะลึงกับโต๊ะและเก้าอี้บนมือของหยวนชูหลิง แต่เขายังตอบคำถามของหยวนชูหลิง
"เตรียมพร้อม?"หยวนชูหลิง แอบมองผ่านประตูเพื่อดูการเคลื่อนไหวในชั้นเรียนและหัวเราะ"การศึกษาของชั้น 10 ไม่เหมือนชั้นเรียนที่มีพรสวรรค์นะ  แค่มองไปที่พวกเขาพวกเขาก็รู้แล้วว่าพวกเขามารวมกลุ่มเพื่อเล่นมากกว่าเรียน! "
หยวนชูหลิงต้องการผลักดันให้ถังไซหยูเข้าประตูหลังจากที่เขาคุยกันเสร็จแล้ว
"ไขมันฉันขอบคุณความตั้งใจของคุณ แต่คุณควรจะกลับไปห้อง  ที่นั้นเหมาะกับคุณมากกว่า" ถังไซหยูตบมือของเขาบนไหล่หยวนชูหลิง ในขณะที่เขากล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง
"ไม่มีทางฉันได้ยินมาว่าคนในห้อง 10เต็มไปด้วยพวกไม่สนกฏระเบียบ  ฉันกลัวว่าคุณจะมีปัญหาดังนั้นฉันต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณ!" ดวงตาของหยวนชูหลิงเต็มไปด้วยความจริงใจ "ตั้งแต่เด็กฉันไม่เคยกลัวใคร ไม่ว่าเจอกับใครฉันก็ยังสามารถหนีได้ต่อให้ฉันจะต้องเจอกับคนทั้งชั้น "
ถังไซหยูหัวเราะอย่างขมขื่นขณะที่เขาได้ยินคำพูดของ หยวนชูหลิง
พ่อแม่ของหยวนชูหลิงเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จโดยมีทรัพย์สินกว่า 100 ล้านหยวน  แต่เนื่องจากหยวนชูหลิงใช้ชีวิตที่ธรรมดาและไม่ค่อยหยิ่งทำให้ถังไซหยูเกือบจะลืมว่าหยวนชูหลิงมีสถานะเป็นแบบนั้น
ไขมันคุณสามารถมาเรียนที่ห้อง 10 แต่คุณต้องสัญญาว่าคุณจะมุ่งเน้นการศึกษาของคุณสำหรับช่วงสามเดือนนี้และจะไม่ยอมแพ้ให้กับตัวเองเหมือนวิธีการที่คุณเคยทำ  ถ้าคุณทำไม่ได้มันดีกว่าที่คุณกลับไปที่ห้อง5ตอนนี้  "ถังไซหยูกล่าวอย่างจริงจัง
หยวนชูหลิง ต้องการที่จะปฏิเสธเมื่อเขาได้ยิน ถังไซหยูขอให้เขาตั้งใจเรียน แต่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่จริงจังบนใบหน้าของ ถังไซหยูเขาจึงบังคับให้เขาหยุดคิด
หลังจากการคบคิดหยวนชูหลิงพยักศีรษะ "เจ้านายคุณมีสิทธิ์มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเรียน แต่ฉันยอมแพ้ด้วยตัวเองอย่างเต็มใจเพราะฉันต้องการแก้แค้นพ่อกับแม่  และฉันก็ยังไม่ต้องการทำลายชีวิตที่เป็นอยู่อย่างนั้น  และฉันก็ไม่ได้ต้องการเลิกเป็นนักเรียนที่ไม่ดี แต่..เมื่อเจ้านายต้องการที่จะพยายามอย่างดีที่สุดในช่วง 2-3 เดือนต่อไปนี้ฉันก็จะทำพร้อมกับคุณเพื่อพยายามอย่างดีที่สุดด้วยกัน "
เห้ คุณสองคนเป็นนักเรียนในชั้นนี้ใช่ไหม? ทำไมคุณทั้งสองยืนอยู่นอกชั้นเรียนหละไม่เข้าไปเรียนเหรอ? "เมื่อถังไซหยูและ หยวนชูหลิง กำลังยุ่งอยู่กับการพูดคุย วัยรุ่นหญิงคนหนึ่งวิ่งมาที่ประตูทางเข้าห้องเรียนอย่างรวดเร็วหลังจากที่เห็นเธอ ถังไซหยูและหยวนชูหลิง
หญิงสาวมีผมสั้นที่ระดับคอ ทรงผมของเธอถูกตัดอย่างประณีตและหน้าแดงๆของเธอทำให้ทรงผมโดยรวมของเธอดูทันสมัยด้วยรูปลักษณ์ที่สดใสและกระปรี้กระเปร่าโดยไม่สูญเสียความเป็นนักเรียน
หยวนชูหลิง มองหญิงสาวอย่างรวดเร็วก่อนที่ดวงตาของเขาแทบจะกลายเป็นเส้นตรงแม้แต่ ถังไซหยูก็หลงใหลในผิวที่งดงามของหญิงสาวและรอยยิ้มของเธอ
หญิงสาวในชั้น5 แทบทุกคนสวมแว่นตาหนาหรือมัดผมของพวกเธอขึ้นเป็นหางม้าสองเส้นและมีบรรยากาศชวนง่วงเนื่องจากความเครียดของพวกเธอ พวกเธอยังไม่เคยคิดที่จะเริ่มพูดกับใคร  ดังนั้นจึงอย่าพูดถึงเรื่องทำผิดระเบียบของพวกเธอ
"สวัสดีสาวสวยฉันชื่อหยวนชูหลิง และนี่คือเพื่อนสนิดของฉันถังไซหยูตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน "หลังจากที่จดจ่ออยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ หยวนชูหลิงรีบหยิบมือที่มีขนอยู่เพื่อจับมือกับสาวผมสั้น
"ฉันย้ายมาโรงเรียนนี้เมื่อเดือนที่แล้ว เรียกฉันว่าเฉิงเยี่ยนหนานฉันมีความสุขที่ได้รู้จักคุณทั้งสองคน "เฉิงเยี่ยนหนานยิ้มกว้างก่อนที่จะเอื้อมมือไปหาหยวนชูหลิง
"คุณทั้งสองต้องรอครูอยู่แล้วดังนั้นฉันจะเข้าห้องเรียนก่อน" เฉิงเยี่ยนหนาน โบกมือให้ถังไซหยู ก่อนที่จะเหยียดมือออกเพื่อเปิดประตู
เมื่อเห็นการกระทำของเฉิงเยี่ยนหนาน ประตูหัวใจของถังไซหยูก็ถูกยกขึ้น
ความรู้สึกและความเร็วในการประมวลผลของสมองของถังไซหยูรวดเร็วเกินกว่าคนปกติ  ถังไซหยูได้สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าเมื่อเขามาถึงชั้น 10 นักเรียนทุกคนในชั้น 10 ได้แสดงออกอย่างตื่นเต้นพวกนั้นมองถังไซหยูราวกับว่าถังไซหยูเป็นเหยื่อของพวกเขา สถานการณ์นี้ทำให้ถังไซหยูต้องระวังมากขึ้น
ขณะที่เขากำลังยืนอยู่นอกห้องเรียนเขาได้ยินเสียงกระซิบที่เกิดขึ้นภายในห้องเรียนด้วยการได้ยินที่เกินจากคนปกติและจากนั้นเขาก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
 นักเรียนชั้น 10 ได้วางกับดักที่ด้านบนของประตูทางเข้าโดยใช้ไม้กวาดและที่ตักฝุ่นดังนั้นเมื่อมีคนดันประตูเข้ามาไม้กวาดและถังขยะจะตกชนกับพวกเขา
ถังไซหยู จะไม่เดินเข้าไปในกับดักทั้งทีรู้ว่ามันมีอยู่   ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่นอกห้องเรียนเพื่อรอให้ครูมาถึงและเพื่อดูว่านักเรียนเหล่านี้จะทำอย่างไรเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครู
เมื่อเฉิงเยี่ยนหนานมาถึง ถังไซหยูได้ยินเสียงเชียร์เงียบลงจากภายในห้องเรียนและเห็นว่าทุกคนเปิดเผยความตื่นเต้นและความคาดหวัง ตอนนี้เองที่ถังไซหยู เข้าใจว่าอาจจะมีการวางดักเพื่อแกล้งเฉิงเยี่ยนหนาน
"เฉิงเยี่ยนหนาน คุณมาสายเสมอใช่มั้ย?" ถังไซหยูไม่ต้องการเห็นเฉิงเยี่ยนหนาน โดนทุบด้วยไม้กวาดและที่ตักขยะดังนั้นเขาจึงจงใจทำลายแผนการดังกล่าวที่จะเกิดกับเฉิงเยี่ยนหนาน
"ทำไมคุณถึงถามฉันแบบนี้?" เฉิงเยี่ยนหนาน มองไปที่ถังไซหยู ด้วยสายตาแปลกๆขณะที่มือของเธอเคลื่อนไหวช้าลง
ในวินาทีต่อมาเฉิงเยี่ยนหนานได้ตระหนักในขณะที่เธอรีบก้าวเท้ากลับสองก้าวก่อนที่จะยกขาเรียวสวยของเธอเพื่อเปิดประตูห้องเรียน
หลังจากนั้นเสียง "ปั้ง" "ค๊องแคร๊ง" ดังกังวานอย่างไม่หยุดหย่อนและฝุ่นละอองลอยอยู่รอบตัว
หยวนชูหลิงถูกตกตะลึงเมื่อเขาเห็นไม้กวาดและที่ตักขยะซึ่งอยู่เหนือพื้นและสูดฝุ่น ในขณะที่เขาอ้าปากค้างหลังจากเปิดประตูห้องเรียน
"พระเจ้าของฉันกลุ่มนักเรียนชายจากชั้น 10 เป็นพวกที่น่ากลัวจริงๆ" หลังจากมองอยู่เป็นเวลานานหยวนชูหลิง ไม่สามารถช่วยได้แต่พึมพำกับตัวเอง เมื่อเขาได้เห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ถังไซหยู จ้องมองเฉิงเยี่ยนหนานเนื่องจากปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกมาเป็นอย่างที่ถังไซหยูต้องการ นอกจากนี้การกระทำครั้งสุดท้ายของเธอในการยกขาของเธอส่วนโค้งของเธอแสดงให้เห็นและความแรงของการเตะทำให้ถังไซหยูเห็นภาพที่น่าทึ่ง[เห็นเกงในมั่ง[มุขๆ]]
"ถังไซหยู, หยวนชูหลิง, พวกคุณไม่ต้องกลัว, กับดักของพวกเขามีไว้เพื่อฉัน  ดังนั้นมันไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณ" เฉิงเยี่ยนหนาน ยิ้มขณะที่เธอเห็นถ้าทางงี่เง่าของถังไซหยูและหยวนชูหลิง และใช้เสียงอ่อนนุ่มเพื่อปลอบโยนพวกเขา "คุณทั้งสองดูเหมือนไม่ใช่คนเลวฉันจะตอบแทนพวกคุณสองคนในครั้งหน้า."
หลังจากที่ เฉิงเยี่ยนหนาน กล่าวเสร็จแล้วเธอก็เข้าสู่ชั้นเรียน
ถังไซหยู ได้ยินชัดเจนเมื่อเฉิงเยี่ยนหนานประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงกับดักจากนักเรียนในห้องเรียนกำลังเหวี่ยง[อารมณ์เสีย] และนักเรียนบางคนที่นั่งอยู่ด้านหน้ารีบกวาดฝุ่นด้วยไม้กวาดและใส่ลงถังขยะทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อนักเรียนทุกคนกลับมานั่งแล้วเสียง "ตึกๆ เป็นจังหวะดังสะท้อนผ่านทางเดินและเห็นได้ว่าเป็นคนที่สวมรองเท้าส้นสูงที่เดินผ่าน
มองไปที่ทิศทางของเสียงเท้า   ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานหญิงทั่วไปกำลังมุ่งหน้าไปยังห้อง10 เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวและขาวเผยให้เห็นผิวขาวราวหิมะบนแขนของเธอ เธอสวมกระโปรงสีแดงสดและถุงน่องไหมสดใส
สุภาพสตรีท่านนี้มีผมตรงยาวสลวย ใบน่ารูปไข่หน้าผากที่กระจ่างใสสะอาด ผิวขาวขาวราวหิมะ คิ้วยาวกลมจมูกแหลมริมฝีปากโค้งแลดูอ่อนโยนสวยงามและอ่อนนุ่มที่ทำให้ทุกคนต้องการที่จะกัดมันและคางที่คมชัด กล่าวได้ว่าเป็นใบหน้าที่ไร้ที่ติและสมบูรณ์แบบ
ถ้าก่อนหน้านี้เฉินเยี่ยนหนาน สวยงามเหมือนดอกไม้ฤดูหนาวที่สง่างาม  แล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าของพวกเขาก็เหมือนดอกไม้สีม่วงเรียบง่ายแสนงดงามงาม งดงามน่าจนน่าทึ่งแต่ก็ไม่มากเกินไป
"ถังไซหยู คุณมานี่เร็วๆ  ฉันคิดจะไปห้อง5 เมื่อจบคาบนี้" ในขณะที่ ถังไซหยูกำลังจ้องมองผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจัง  ปากเชอร์รี่ของเธอเปิดออกและเผยให้เห็นชุดของฟันขาวบริสุทธิ์ ขณะที่เธอเรียกด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ เสียงของเธอนุ่มนวลและน่าฟัง
"เฮ้ ... สวัสดีครับครูฮั่น!" ถังไซหยู รู้สึกตัว เมื่อได้ยินฮั่นชิงหวูเรียกเขา เขาตอบกลับเธอด้วยใบหน้าแดงๆ
เหตุผลที่ถังไซหยู กำลังจ้องมองที่ฮั่นชิงหวู ไม่ได้เป็นเพราะเสน่ห์ที่น่ารักของเธอ แต่เนื่องจากฮั่นชิงหวู มีลักษณะคล้ายกันมากกับคนรักของเขาในโลกอมตะซึ่งทำให้เขาตะลึงกับช่วงเวลานี้
ถ้าเขาไม่ได้ตรวจสอบว่าฮั่นชิงหวูไม่มีพลังวิญญาณ  ถังไซหยูจะคิดว่าเธอเป็นคนรักของเขาจากโลกอมตะและได้ตามเขากลับมายังโลก
"ถังไซหยู, อาจารย์ใหญ่และครูชั้นปี 3 กล่าวกับฉันเกี่ยวกับเรื่องของคุณแล้วถ้าคุณไม่สนใจที่จะเข้าห้อง10 คุณจะอยู่กับฉันในช่วงไม่กี่เดือนนี้ก็ได้นะ"ฮั่นชิงหวู ดูเหมือนเธอจะพอใจกับปฏิกิริยาของถังไซหยู ขณะที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอสดใสขึ้น
"ฉันคงต้องขอให้คุณครูดูแลฉัน"ถังไซหยู ปรับอารมณ์ของเขาขณะที่เขาสังเกตฮั่นชิงหวูอย่างเงียบ ๆ
ถังไซหยู รู้สึกว่าฮั่นชิงหวูกำลังกระตือรือร้นกับเขามาเกินไป แต่เขาไม่สามารถนึกถึงสิ่งที่เขามีความสัมพันธ์กับเธอ นอกจากนี้ฮันชิงหวู ยังดูคล้ายคนรักของเขาในโลกอมตะซึ่งทำให้ถังไซหยู รู้สึกอึดอัดแต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ
"ถังไซหยู คุณกล่าวเกินจริง คุณเป็นที่หนึ่งในการสอบเข้าในโรงเรียนมัธยมเมืองดาว  ดังนั้นฉันยังคงคาดหวังว่าคุณจะทำความมหัศจรรย์ให้ฉันเห็นในช่วงการสอบปีสุดท้าย   ฮั่นชิงหวูไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติในถังไซหยู ขณะที่เธอยังคงสนับสนุนเขาด้วยเสียงอ่อนโยน
ถังไซหยู เข้าขบคิดขณะฟังและสัมผัสจมูก
"ครูฮั่นฉันเป็นเพื่อนสนิดของถังไซหยูจากห้อง5 และฉันอยากย้ายมาห้อง 10 เพื่อทำการศึกษาต่อดังนั้นฉันจึงอยากจะขอให้ครูฮั่นยอมรับฉัน" หยวนชูหลิงสังเกตเห็น สายตาของฮั่นชิงหวูเธอจดจ่ออยู่กับถังไซหยู ตลอดเวลาและไม่เคยมองมาที่เขาดังนั้นเขาจึงรอจนกระทั่งฮั่นชิงหวู จบการสนทนากับถังไซหยูและรีบพูดขึ้น


วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

RFTIM-ตอนที่8ตัดสินใจเด็ดขาด [แก้ใข7/5/2560]

ตัดสินใจเด็ดขาด

ตาของหูไซเฉิงจ้องมองถังไซหยู ขณะที่เขาพูดมุมปากของเขาเปิดเผยรอบยิ้มเย้ยหยัน

หูไซเฉิง เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ของเขา เมื่อผลการเรียนของถังไซหยูลดลงหลังจาก ที่ถังไซหยูเคยเป็นอันดับแรกในทั้งหมดของการสอบเข้าและหูไซเฉิง  ก็ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อพยายามแย่งชิงถังไซหยูเข้าสู่ชั้นเรียนของตน.

ในระหว่างปี1 ถังไซหยูได้สร้างเกียรติให้กับหูไซเฉิง โดยการทำผลงานของเขาได้ดีในการสอบหรือการแข่งขันไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ อย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 2แม้ว่าถังไซหยูยังคงหลงใหลในการเรียนรู้เหมือนเดิม แต่ถังไซหยูมักจะลืมสิ่งที่เขาเคยได้เรียนรู้ไปก่อนหน้า หลังจากได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆทำให้ผลงานของเขากลายเป็นแย่ที่สุดหลังสอบ


ยิ่งไปกว่านั้นนิสัยของถังไซหยูก็แย่ลง เช่นการลอกการบ้านการโกงการสอบและการเข้าสู่การแข่งขัน  แม้ว่าหูไซเฉิง  ไม่ได้สืบหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้น  แต่เมื่อเห็นว่าถังไซหยูไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน  หูไซเฉิงจึงตัดสินใจเอาถังไซหยูออกจากความสนใจของเขา

"ครูถ้าคุณอยากจะเตะถังไซหยูออกจากชั้นเรียน ฉันก็จะย้ายไปห้อง10พร้อมกับถังไซหยู" เมื่อหยวนชูหลิง สังเกตเห็นว่าหูไซเฉิงได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในเรื่องนี้  เขาตะแบงและจ้องมองที่หูไซเฉิงขณะที่เขากล่าวเสียงดัง

ได้ยินคำพูดของหยวนชูหลิงถังไซหยูที่เงียบลงชั่วครู่มีความรู้สึกอบอุ่นขณะที่เขาหันไปมองหยวนซูหลิง

ถังไซหยู รู้ว่าสถานการณ์หยวนซูหลิง แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าผลของหยวนชูลิ่งจะแย่ แต่ไม่มีใครสามารถบังคับหยวนชูหลิงให้ออกจากชั้นเรียนได้หากเขาไม่ต้องการเพราะอิทธิพลของพ่อแม่ของเขาในเมืองดาวนั้นใหญ่เกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่ หูไซเฉิงไม่ต้องการท้าทายหยวนชูหลิง

"หยวนชูหลิงฉันจะต้องขอความเห็นจากพ่อแม่ของคุณเกี่ยวกับการที่คุณต้องการเปลี่ยนชั้นเรียนเป็นอันดับแรกถ้าพ่อแม่ของคุณเห็นด้วยแล้วฉันจะไม่หยุดยั้งคุณ" หูไซเฉิง ถักคิ้วขณะที่เขาคิดว่าจะเก็บหยวนชูหลิงไว้อย่างไร เมื่อถูกกระตุ้นจากเรื่องถังไซหยูดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างไม่เต็มใจ "กรุณานั่งลงตอนนี้เรากำลังเริ่มต้นชั้นเรียน."

หยวนชูหลิงตัวแข็งเพราะเขาไม่คาดหวังว่าหูไซเฉิง จะเห็นด้วยกับคำขอของเขาโดยตรง    เมื่อถังไซหยูดึงเขาก็ค่อยๆนั่งลง

ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ถังไซหยูก็ได้เก็บสิ่งของทั้งหมดจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืนมุ่งหน้าไปยังทางออก

"หัวหน้าคุณจะไปไหน?" หยวนชูหลิงยังคงเค้นสมองว่าจะทำยังไงให้ถังไซหยูยังคงอยู่ในห้องนี้ต่อ แต่เขาไม่คาดคิดว่าถังไซหยูจะไม่สนใจและทำในลักษณะนี้  เขาจึงไม่สามารถช่วยได้แต่ถามอย่างตกใจ

"ไปที่ที่ฉันควรจะไป"ถังไซหยู โบกมือขณะถือกระเป๋าไว้บนมือพร้อมกับยิ้มให้กับยวนชูหลิง

เสียงตกใจของหยวนชูหลิง ทำให้หูไซเฉิงสนใจขณะที่เขายังคงเขียนบนกระดานดำ เมื่อเขาเห็นว่าถังไซหยูเดินไปทางออกจากชั้นเรียนแล้วเขากระแทกกำปั้นบนโต๊ะของครูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ "ถังไซหยู พวกเรากำลังเรียนกันอยู่ในขณะนี้ ใครให้คุณสามารถเดินได้อย่างอิสระ?"

"เสือหู ฉันไม่ได้เป็นนักเรียนในชั้นนี้อีกต่อไปแล้วคุณคิดว่าคุณยังสามารถควบคุมฉันได้อยู่?"ถังไซหยู ตอบกับหูไซเฉิงอย่างเย็นชาขณะที่เขายิ้มกว้าง ๆ

ในระหว่างช่วงการศึกษาด้วยตนเองในช่วงเช้าปกติถังไซหยูจะไม่พูดอะไรสักคำเมื่อหูไซเฉิงกำลังตำหนิเขา   ถังไซหยูก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำเมื่อหูไซเฉิงได้เตะถังไซหยูต่อหน้านักเรียนทั้งหมด  แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าถังไซหยูไม่แค้น แต่แค่ถังไซหยูยังไม่ต้องการที่จะใส่ใจกับหูไซเฉิง

ถ้าหูไซเฉิง อนุญาตให้ถังไซหยู เดินออกจากชั้นเรียนได้อย่างอิสระแล้วเขาก็ไม่สนใจกระตุ้นหูไซเฉิง  หลังจากที่หูไซเฉิง เคยสอนถังไซหยู มานานกว่าสองปีแล้วและยังเป็นครูดูแลชั้นเรียนของเขาดังนั้นถังไซหยู จึงไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่เคารพผู้อาวุโส

ถึงกระนั้นหูไซเฉิงได้เลือกที่จะแสดงอำนาจของเขาในการยับยั้งถังไซหยู และคิดถึงความอัปยศอดสูทั้งหมดที่หูไซเฉิง นำมาให้เขาและแม่ของเขาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาถังไซหยู ไม่สามารถทนอีกต่อไป

หลังจากที่จบประโยคถังไซหยูได้ก้าวออกจากห้องเรียนโดยไม่ให้หูไซเฉิงมีโอกาสพูด

สิ่งที่ถังไซหยูไม่รู้ คือเมื่อเขากล่าวคำว่า "เสือหู" ไม่เพียง แต่ทำให้หูไซเฉิง หยุดการเรียนในจุดนั้นเขายังทำให้ทุกคนในชั้นเรียนพูดไม่ออก

แม้ว่านักเรียนทุกคนจะเรียก "ไซเฉิง"เสือหู ลับหลังของเขา แต่ไม่มีใครกล้าพูดชื่อเล่นนี้ออกมาในที่สาธารณะหรือแม้แต่อยู่ต่อหน้าหูไซเฉิงเพราะพวกเขาไม่กล้า

"ฉันจะจัดการกับแกฉันจะจัดการกับแกฉันไม่เชื่อว่าฉันไม่สามารถจัดการกับแก!" หูไซเฉิงจัดการควบคุมการหายใจของเขาเป็นเวลานาน แม้รู้ว่าหลังจากนี้ถังไซหยูจะไม่อยู่ที่นี้  หูไซเฉิงก็ไม่สามารถระงับความโกรธได้

"เสือหู ฉันยอมรับข้อเสนอของคุณและตกลงที่จะให้ฉันเปลี่ยนไปเรียนที่ห้อง10ลาก่อน โอ้และก่อนที่ฉันจะจากไปฉันก็อยากจะพูดกับคุณ  การปล่อยให้บอสถังออกจากชั้นนี้เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลาที่สุดเท่าที่คุณเคยทำมาในชีวิตของคุณและคุณจะต้องเสียใจ "เมื่อหูไซเฉิง ต้องการที่จะเดินออกไปนอกห้องเรียนเพื่อไล่ตามถังไซหยู มีเสียงดังขึ้นในห้องเรียน

เมื่อหูเฉิงหันไปมองเขาเห็นหยวนชูหลิงกำลังจัดโต๊ะและเก้าอี้นักเรียนอยู่ที่ในห้องเรียนและกำลังจ้องเขาขณะที่อยู่ที่นั่น

"หยวนชูหลิง คุณ ... คุณไปแล้วอย่าคิดว่าจะได้กลับมาอีก" คิดถึงพ่อแม่ของหยวนชูหลิงเป็นใครหูไซเฉิง ก็ไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อหยวนชูหลิงได้

"เสือหู ตั้งแต่ฉันคุณปู่ของคุณได้ตัดสินใจที่จะออกไปแล้ว ปู่ไม่เคยคิดที่จะกลับมาแม้ว่าคุณจะขอร้องคุณปู่ของคุณจะไม่กลับมาอีก!!" เห็นว่าหูไซเฉิง โกรธมากวิญญาณของเขาแทบจะบินออกมา หยวนชูหลิงมีความสุขอย่างไม่อาจอธิบายได้

เมื้อหยวนชูหลิงหายไปจากสายตาของหูไซเฉิง

หูไซเฉิง ไม่ได้โจมตีด้วยคำพูดที่หยาบคายเหมือนพูดกับถังไซหยู เพราะเขาตระหนักดีถึงสถานะของหยวนชูหลิง คำพูดใดๆที่ไม่มีประโยชน์ต่อหยวนชูหลิง อาจทำให้เขามีปัญหาได้

เมื่อถังไซหยู และหยวนชูหลิง ออกจากชั้นเรียนหูไซเฉิง ผู้ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากพวกเขา  ก็ไม่สามารถที่จะต่อสอนได้ ด้วยความคิดที่หงุดหยิด หูไซเฉิงพึมพำกับตัวเองขณะที่รีบออกจากชั้นเรียนและมุ่งหน้าไปยังสำนักงานของอาจารย์ใหญ่

"อาจารย์ใหญ่เว่ย  ฉันต้องการให้ไล่ถังไซหยู ไม่เพียงแต่การศึกษาของเขาไม่ดีเท่านั้นเขายังไม่เคารพผู้อาวุโสและแม้กระทั่งทำให้คนอื่นหลงทาง   ถ้าเรายังทนต่อเขาและปล่อยให้เขาอยู่ในโรงเรียนนี้ก็จะทำให้ชื่อเสียงของเราแย่ลงเท่านั้น! "ในสำนักงานใหญ่  หูไซเฉิงอ้อนวอนในขณะที่เขาบรรยายและพูดเกินจริงต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

"โอ คุณหู ฉันเองก็อยากจะขับไล่ถังไซหยู แต่คุณก็ควรรู้ด้วยเรื่องที่ครูฮั่นกำลังปกป้องถังไซหยูอยู่  เขาได้ประนีประนอมกับคุณด้วยการปล่อยให้ถังไซหยู ออกจากชั้นเรียนของคุณถ้าคุณอยากทำให้ถังไซหยูยุ่งยากและอยากให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้วมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย "อาจารย์ใหญ่เว่ย  ค่อยๆเทชาใส่แก้วให้กับหูไซเฉิง ก่อนจะยิ้มให้เบาๆและอธิบายให้เขาฟัง

"แต่ ... แต่ ... " ฟังอาจารย์ใหญ่เว่ย  ,หูไซเฉิงรู้สึกหดหู่และเหลือทนในหัวใจของเขาในขณะที่เขาไม่ทราบว่าจะพูดอะไร  หูไซเฉิงไม่เข้าใจว่าทำไมฮั่นชิงหวู ครูผู้ดูแลชั้น10ถึงต้องการปกป้องถังไซหยู

ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ฮั่นชิงหวูปกป้องถังไซหยู  หูไซเฉิงจะเตะถังไซหยู ออกจากชั้นเรียนตั้งแต่ 1ปีที่แล้วเมื่อผลงานของเขาแย่ลงสำหรับการขอร้องของแม่ของถังไซหยูเขาไม่สนใจ  หูไซเฉิงไม่ได้เป็นคนดีแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเตะถังไซหยูออกจากชั้นเรียนได้

"อาจารย์ใหญ่เว่ย  คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมครูฮั่นจึงป้องกันถังไซหยูฉันได้ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของถังไซหยู สมาชิกในครอบครัวที่สำคัญแล้วหลายครั้ง แต่ฉันไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างเขากับครูฮั่นนอกจากนี้ฉันยังไม่เคยเห็นครูฮั่นมีปฏิสัมพันธ์กับถังไซหยู มาก่อน"หูไซเฉิง ถามอย่างสงสัย

หูไซเฉิงเป็นครูที่รับผิดชอบในชั้นเรียนที่มีพรสวรรค์และยังเป็นครูเก่าที่เคยสอนในโรงเรียนมัธยมในเมืองสตาร์ซิตี้ มาเกือบ 20 ปีในขณะที่ถ้าฮั่นชิงหวูเป็นเพียงครู ของชั้นปกติและเพิ่งเข้าโรงเรียนเพียงไม่กี่ปี  หูไซเฉิงจะทำไม่เห็นด้วยกับการตัดสิน

อย่างไรก็ตามความจริงก็คือหูไซเฉิง  ต้องระมัดระวังในการพูดกับฮั่นชิงหวู และทัศนคติที่ดีนี้ นี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับหูไซเฉิง แต่ครูทุกคนในโรงเรียนที่   พวกเขาดูเหมือนจะเป็นเกลียวเกล็ดน้ำแข็งเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาอยู่ในต่อหน้าของฮั่นชิงหวู รวมทั้งหลักอาจาย์ใหญ่เว่ย

เหตุผลง่ายมาก  พ่อของฮั่นชิงหวูคือฮั่นฟู เป็นประธานของกระทรวงศึกษาธิการในเมืองดาว ดังนั้นหากครูคนใดต้องการที่จะปีนขึ้นไปหรือปรารถนาที่จะดำเนินอาชีพต่อไปในการสอน พวกเขาก็จะไม่สามารถทำร้ายฮั่นชิงหวูและต้องประจบเธอให้ดี

"โอ้ หู, ความสัมพันธ์ระหว่างถังไซหยู กับครูฮันเป็นยังมันไม่สำคัญ ตราบเท่าที่ครูฮันต้องการปกป้องถังไซหยู คุณสามารถลืมเกี่ยวกับการไล่ถังไซหยูออกจากโรงเรียนได้เลย จริงๆแล้วไม่ใช่แค่คุณที่อยากถังไซหยู ถูกไล่ออกผมได้รับการขอร้องเมื่อเช้านี้และคนนั้นก็อยากให้ถังไซหยู ถูกไล่ออกจากโรงเรียนและผมคิดว่าคุณคงไม่มีทางคาดเดาได้ว่าเค้าเป็นใคร "อาจารย์ใหย๋เว่ย ยิ้มแปลก ๆ และมองไปที่หูไซเฉิง ขณะที่เขาพูดเบา ๆ

"ใคร?" คำของอาจาย์ใหญ่เว่ย ได้ทำให้ทำหูไซเฉิงสนใจ ในขณะที่เขาถามโดยไม่อย่างไม่ตั้งใจ

"ประธานองค์กรซ่างเว่ย,ซูซางเว่ย"อาจารย์ใหญ่เว่ย ลดเสียงของเขาในขณะที่เขาตอบ

"ซูซางเว่ยคุณหมายถึงเจ้าขององค์กรที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว   ที่บริจาคหอพักขนาดใหญ่ให้กับโรงเรียนเพียงเพื่อให้ลูกชายของเขาเข้าสู่โรงเรียนมัธยมระดับกลางของเมืองดาว  ถังไซหยูทำอย่างไรถึงรุกรานคนดังกล่าวเขาและถังไซหยูอยู่ในสองโลกที่แตกต่างกันเว้นเสียแต่ว่าเป็นเพราะ ถังไซหยูและลูกชายของเขาขัดแย้งกัน "ความสำเร็จที่ผ่านมาของซูซางเว่ย เริ่มปรากฏขึ้นในใจของหูไซเฉิงขณะที่เขาได้ยินชื่อของซูซางเว่ย

หูเก่า ไม่ได้บอกว่าคุณได้ตรวจสอบรายชื่อสมาชิกในครอบครัวของถังไซหยูหลายครั้งแล้วเหรออย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จักนามสกุลของแม่ของถังไซหยู?  อาจารย์ใหญ๋เว่ยมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยข้อสงสัยหลังจากได้ยินคำพูดของถังไซหยู

"แม่ของถังไซหยู?"หูไซเฉิง ไม่เข้าใจว่าทำไมครูใหญ่เว่ย ถึงได้ถามคำถามนี้ แต่เขาก็ยังนึกถึงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เคยขอร้องเขาไว้ให้และในตอนนั้นหน้าของหูไซเฉิง ก็หดตัวลงทันทีและถามว่า " หลักคุณจะไม่บอกฉันว่าซูหลิงหยุน และซูซางเว่ย มีความสัมพันธ์กันใช่มั้ย? "

"ไม่ถูกต้องถ้าซูหลิงหยุน และซูซางเว่ย เป็นญาติกันแล้วทำไมทั้งถังไซหยูและแม่ของเขาถึงน่าสงสารขนาดไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้ตราบเท่าที่ซูซางเว่ย พร้อมที่จะปล่อยเงินเล็กน้อยจากช่องว่างระหว่างเล็บกับซูหลิงหยุนและถังไซหยู แม่และลูกชายก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าเลย "หูไซเฉิง กำลังสับสน .

"เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตการสอบสวนของเรา"ครูใหญ่เว่ยไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธข้อสงสัยของหูไซเฉิง แต่ก็ยังคงดำเนินต่อไปกับสิ่งที่เขาต้องการกล่าว 

"ถึงแม้ว่าซูซางเว่ย ได้ให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเป็นอย่างมาก แต่ด้วยการสนับสนุนของครูฮั่น  ที่มีกับถังไซหยู ฉันไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่ไม่สมเหตุผลของเขาได้ ถึงกระนั้นเขาก็ควรจะพอใจกับฉันที่จะเปลี่ยนถังไซหยูเป็นห้อง10. "
มุมของปากของหูไซเฉิง ขดตัวลงอย่างกะทันหันในช่วงเวลาสั้น ๆ

หูไซเฉิง ต้องการที่จะไล่ถังไซหยู ออกจากชั้นเรียนของเขาตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วและได้กล่าวถึงครูใหญ่และครูผู้รับผิดชอบปีที่ 3 หลายครั้ง แต่ทั้งสองคนได้ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่เสมอ

เมื่ออาจารย์ใหญ่และครูผู้สอนระดับปีที่ 3 ได้ตกลงที่จะเปลี่ยนถังไซหยู ออกจากชั้นเรียนของเขาหูไซเฉิง ยังคงคิดว่านี่เป็นความพยายามของเขาที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าซูซางเว่ย  มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจครั้งนี้และเขาได้รับเกียรติยศทั้งหมดเพราะซูซางเว่ย

คิดย้อนกลับไปก่อหน้านี้ท่าทางเยาะเย้ยและคำพูดจากถังไซหยูและหยวนซูหลิง ก่อนที่พวกเขาจะออกจากชั้นเรียนหูไซเฉิง ก็รู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะได้รับชัยชนะ แต่เขาก็ได้พ่ายแพ้เช่นกัน



ชื่อเต็มอาจารย์ใหญ่เว่ยคือ Wei ZhenTai[เว่ยจางไท] ชื่อมันแปลกๆงั้นก็อย่าไปสนมันกันเลยนะ

FBหลบบอสแปล

แก้ใข7/5/2560


วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

RFTIW กลับจากโลกอมตะ ตอนที7 ไล่ออกจากห้องเรียน[เกลาหน่อยๆ]

      Returning from the Immortal World  Chapter 7

กลับจากโลกอมตะ ตอนที่7
      


  ไล่ออกจากชั้นเรียน
ถังไซหยูมองโต๊ะนักเรียนของเขา  แค่เพียงกระดาษแบบทดสอบอย่างเดียวก็ซ้อนกันสูงถึง2ฟุตและจำนวนงานที่ค้างก็สูงกว่าข้อสอบ
ไม่ใช่แค่โต๊ะของถังไซหยู ที่เป็นเช่นนั้นโต๊ะอื่นๆของเพื่อนในชั้นเรียนเป็นแบบนั้น ถ้าชี้ให้เห็นความแตกต่าง   ก็คงจะเป็นหนังสือทุกเล่มและเอกสารทดสอบที่อยู่ในโต๊ะของถังไซหยู ดูใหม่และจัดเรียบร้อยในขณะส่วนที่เหลือของเพื่อนร่วมชั้นโต๊ะของเขาทำกันบ้างแล้วทำให้โต๊ะเขาดูเหมือนกองภัยพิบัติ
ถังไซหยู สุ่มดึงแบบทดสอบออกมาดูและพบว่าเขาไม่สามารถเข้าใจคำถาม เลขศูนย์สีแดงสดจำนวนมากมีบนกระดาษทดสอบของเขาทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
"ดูเหมือนว่าฉันต้องแก้ปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาของฉันก่อนที่จะแก้ปัญหาเรื่องเทคนิคการเพาะปลูก  ไม่งั้นฉันจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะผลการเรียนที่แย่ของฉัน   และแม่คงเสียใจ"                      ถังไซหยูบ่นกับตัวเองเบาๆ  ก่อนหยิบหนังสือจากโต๊ะและลงมือทำ
 หลังจากที่ดวงวิญญาณของเขาได้รับความเสียหาย และสติปัญญาของถังไซหยูบนโลกก็เสียหายไม่ต่างกัน แต่ระเบียบวินัยในการศึกษาของเขาก็ดีมาก เอกสารการเรียนทั้งหมดของเขาตั้งแต่ปี1ถึงปี3 ถูกจัดอย่างเรียบร้อยใต้โต๊ะของเขา  ถังไซหยูจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและความพยายามในการหาเอกสารการศึกษา
ในขณะที่ผู้ปกครองของเขามีเพียงคนเดียว ถังไซหยูเชื่อฟังและขยันในการศึกษาของเขา ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมปลาย ถังไซหยู เคยเป็นเผ็ดจการในผลการเรียน เขาได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มผู้สอบเข้าทั้งหมดของโรงเรียนระดับมัธยมปลายของเมืองดาว และหนึ่งปีต่อมาถังไซหยูยังคงครองที่1จากการจัดอันดับนักเรียนทั้งหมดในการสอบปลายปีเพียงแต่แค่นับจากท้ายแถว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงเทอมแรกของโรงเรียน   ในปี2สติปัญญาของถังไซหยูได้รับความเสียหายและทำให้หน่วยความจำ,ทักษะด้านความเข้าใจของเขาลดลงอย่างมากและมักจะสูญเสียความทรงจำเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักแค่ไหนเขาก็ยังไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมในชั้นเรียนได้    ดังนั้นผลการเรียนของเขาจึงลดลงจนกระทั่งเขากลายเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มนักเรียน
ถ้าถังไซหยูต้องการปรับปรุงผลการเรียนของเขา  เขาไม่เพียงแต่ต้องเรียนรู้เนื้อหาจากปีที่2ถึง3เท่านั้น  แต่ยังเรียนรู้เนื้อหาทั้งหมดของ2ปีก่อน ถ้าเป็นถังไซหยูก่อนหน้านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมา เวลาทั้งหมดที่เขามีคือสามเดือน แต่มันไม่เป็นปัญหาสำหรับถังไซหยูในปัจุบัน
"หัวหน้าพยายามของคุณนะไม่สูญเปล่า แม้เราพี่น้องไม่เหมาะที่จะเรียนก็ไม่ใช้ไม่ว่าจะยากเกินกว่าความสมารถเรา "ถังไซหยู พียงถังไซหยูพลิกหนังสือของเขาไม่กี่น่า เขารู้สึกถึงมือข้างๆไหล่และเสียงต่ำดังขึ้นที่ข้างหู
คนที่พูดก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาหยวนชูหลิง เขายังคงคิดว่าถังไซหยูได้รับผลกระทบจากคำพูดของหูไซเฉิง และไม่สามารถทำงานค้างของเขา ดังนั้นหยวนชูหลิงจึงต้องการปลอบเขา
  หยวนชูหลิงเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของถังไซหยู ซึ่งไม่ค่อยที่จะมีและถือได้ว่าเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเขา
ผลการสอบของหยวนชูหลิงยังเป็นที่โดดเด่นอย่างมากเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียน อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของเทอม[ไม่รู้มันเรียน3เทอมรึเปล่าเลยไม่กล้าใส่เทอมสอง]ในปี1 พ่อแม่ของเขาได้หย่าร้างกันและหลังจากนั้นหยวนชูหลิง  ก็เริ่มละเลยการเรียนการเรียนการสอนและไม่สนใจการสอบ จากรูปแบบนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเขากลายเป็นนักเรียนที่ยอดแย่ที่ครูเกลียดในช่วงเวลาสั้นๆ
สองปีที่ผ่านมาและถึงแม้ว่าหยวนชูหลิงก็ยอมรับความจริงที่ว่าพ่อแม่ของเขาได้หย่าร้างกัน แต่ความเสียหายที่เกิดจากพ่อแม่ทำให้เขาไม่สามารถกู้ความกระตือรือร้นต่อการศึกษาของ
 "ไขมันแค่ตั้งใจเรียนมันพอใช่ไหม...... "ถังไซหยู หยุดประโยคใว้ครึ่งทางและไม่สามารถพูดต่อได้ เหตุผลที่เขากลับไปเรียนที่โรงเรียนก็เพื่อตอบสนองความต้องการของแม่   แต่หยวนชูหลิงเกลียดพ่อแม่ของเขาและจะทำทุกอย่างที่จะทำให้พ่อแม่ของเขารู้สึกอับอาย
"อย่าลืมว่าสถานการณ์ของเราแตกต่างกันออกไปคุณควรเรียนหนักและไม่ยอมลดความคาดหวังของคุณแม่  สำหรับฉันแล้วมันจะเป็นแบบนี้ตลอดชีวิตที่เหลือ "เห็นว่าถังไซหยู หยุดพูดต่อ รอยยิ้มบนหน้าของหยวนซูหลิงค่อยๆหายไปในขณะที่เขากลายเป็นใบหน้าที่เศร้า
"ไขมันเนื่องจากคุณยังคงมาโรงเรียนอยู่เสมอเพื่อที่จะเรียนตามเวลาในปกติ แสดงว่าลึกลงไปคุณยังมีความหลงใหลในการเรียนรู้ คุณกำลังทำเช่นนี้เพราะคุณต้องการให้แม่และพ่อของคุณรู้สึกเศร้าและเสียใจนั่นคือเหตุผลที่คุณยอมแพ้ในตัวเองใช่มั้ย? "ถังไซหยู จ้องที่หยวนชูหลิงขณะที่เขาถาม
หลังจากได้ยินคำพูดของถังไซหยู การแสดงออกของหยวนซูหลิงเปลี่ยนไปและหลีกเลี่ยงการจ้องมองของถังไซหยูด้วยความรู้สึกผิด
"ไขมันแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมพ่อแม่ของคุณตัดสินใจที่จะยื่นเรื่องหย่า แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ฉันได้เห็นว่าพวกเขาดูแลคุณมากแค่ไหนพวกเขาก็ไม่ได้หย่าเพราะพวกเขาไม่ได้รักคุณ  แต่เป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ด้วยกัน ถ้าคุณยังยอมแพ้คุณจะต้องทนเจ็บปวดและพ่อแม่ของคุณก็จะเจ็บปวดด้วยเช่นกันแล้วทำไมถึงทำแบบนี้? "เมื่อเห็นว่าหยวนชูหลิงฟังเขาถังไซหยูได้ตักเตือน .
ถ้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากโลกอมตะได้เห็นว่าถังไซหยู ให้คำแนะนำแก่มดอ้วนๆเรื่องหลักความจริงแล้วขากรรไกรของพวกเขาจะตกลงไปที่พื้นอย่างแน่นอน
เนื่องจากถังไซหยูในโลกอมตะนั้นหยิ่งเกินไปแม้กระทั่งกับคนรักและเพื่อนที่ดีของเขาเขาก็ไม่ได้พูดคุยกับพวกเขามากและเขาก็ยังเย็นชาต่อคนแปลกหน้า
มันเป็นเพียงเพราะหยวนชูหลิงได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดเพื่อเขาในช่วงเวลาที่สำคัญที่  ทำให้ถังไซหยูรู้สึกดีจึงทำให้ถังไซหยูยอมรับและยอมรับเพื่อนคนนี้ของเขา
ครอบครัวของถังไซหยูยากจนมากจนเขามีปัญหากับค่าใช้จ่ายในครอบครัวและเขายังมีปัญหาในการรวบรวมเงินเพียงเพื่อให้พอสำหรับค่าเล่าเรียนแต่ผลการเรียนของเขาเลวร้ายและถูกสงสัยว่าเป็นคนพิการทางจิตใจ แม้ภายใต้สถานการณ์ทั้งหมดนี้หยวนชูหลิงยังคงยินดีที่จะช่วยและปกป้องเขาดังนั้นนี้จึงพิสูจน์ได้ว่าหยวนชูหลิงถือว่าถังไซหยูเป็นเพื่อนของเขา
"ฉันรู้ดีว่าพ่อแม่ของฉันมีปัญหาเกี่ยวกับเหตุผลที่พวกเขาหย่าร้างกัน แต่ฉันก็ยังไม่สามารถผ่านมันไปได้" หยวนชูลิ่งรู้สึกผิดเขาอธิบายว่าหลังจากที่ได้เงียบไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
"อ๊า   เราไม่ได้พูดถึงเรื่องของฉัน ก่อนหน้านี้เสือหูเคยบอกว่าเขาต้องการที่จะไล่คุณออกจากชั้นนี้หรือขับไล่คุณออกจากโรงเรียน แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าคุณไม่เป็นห่วงเรื่องนี้เลย "หยวนชูหลิงไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการหย่าร้างของพ่อแม่เขาต่อดังนั้นขาก็เปลี่ยนหัวข้อ
"ผลการเรียนของฉันแย่มาก นอกจากนี้คุณคิดว่าฉันจะสนใจคนอื่นบางทีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมจะดีสำหรับฉัน"ถังไซหยู ยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่เขาไม่ได้ใส่เรื่องนี้เข้าไปในหัว
"ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตอนนี้คุณกลายเป็นคนอื่นแล้วล่ะ?" ฟังคำตอบของถังไซหยู  หยวนชูหลิงเกือบจะคิดว่าการได้ยินของเขามีปัญหาหลังจากนั้นเขามองถังไซหยูตั้งแต่หัวจรดเท้า
สายตาของหยวนชูหลิง เริ่มสว่างขึ้นเมื่อใบหน้าของเขาเผยให้เห็นท่าทางตื่นเต้นและกระวนกระวายใจและถามว่า "คุณ ...... คุณ ...... สมองของคุณปกติขึ้นแล้ว!"
"ถูกต้องสมองของฉันได้ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติขอขอบคุณสำหรับการดูแลฉันตลอดสองปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูของฉันฉันได้ตัดสินใจที่จะให้คุณนั่งบนบัลลังก์ของการเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียนนี้ "เมื่อเห็นรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้าหยวนชูหลิง  ถังไซหยูรู้สึกอบอุ่นในหัวใจของเขาขณะที่เขาต่อยกำปั้นของเขาไปบนหน้าอกของหยวนชูหลิง ด้วยรอยยิ้มเบาๆบนใบหน้า
"เดี๋ยวก่อนฉันแค่รู้สึกมีความสุขมากตอนนี้ไปเถอะฉันจะเลี้ยงคุณเองเราต้องเฉลิมฉลองกัน" หลังจากที่เขาได้รับการยืนยันความสงสัยของเขาหยวนชูหลิง รู้สึกดีใจและคว้าแขนของ ถังไซหยู ขณะที่เขาดึงถังไซหยู ออกจากห้องโดยไม่สนการหัวเราะเยาะที่ด้านหลังของถังไซหยูก่อนจะมีเสียงระฆังเริ่มเรียนดังขึ้น
ถังไซหยู มีความคิดที่จะปฏิเสธ แต่จะทำอะไรได้เพราชูหยวนหลิง มีรูปร่างใหญ่โตและมีความแข็งแกร่งมากกว่าเขา ถังไซหยูไม่สามารถขัดขืนได้
"คุณสองคนจะไปไหนนี่เป็นเวลาเรียนดังนั้นกลับไปที่ที่นั่งของคุณ" ถังไซหยูและหยวนชูหลิง ถูกหยุดโดยหูไซเฉิงเมื่อพวกเขามาถึงทางออก
หยวนชูหลิงไม่ได้คาดหวังว่าหูไซเฉิง จะกลับมาหลังจากที่ออกไป เขาไม่สามารถช่วยได้ แต่ตัวแข็งในขณะที่เขาปล่อยแขนของถังไซหูออกและรีบมองไปที่ ถังไซหยู ด้วยท่าทางขอโทษ
แม้ผลการเรียนของถังไซหยู ไม่น่าพอใจในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่กับระเบียบวินัยในโรงเรียนของเขาเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสิ่งที่ดี เขาไม่เคยออกจากชั้นเรียน หรือเล่นเป็นคนขี้เกียจและไม่เคยแม้แต่ที่เขาจะมาสายเกินไปสำหรับเข้าเรียนมาก่อน แต่ตอนนี้เขาถูกลากโดยหยวนชูหลิง ดังนั้นหยวนชูหลิงจึงรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
"ครูถังไซหยู รู้สึกไม่สบายดังนั้นฉันจะพาเขาไปห้องพยาบาล ฉันขอเวลาครึ่งชั่วโมงออกจากคาบของครูได้หรือไม่"หยวนชูหลิงหาข้องอ่างทันที่
ได้ยินคำแก้ตัวนั้นหูไซเฉิง กวาดสายตาจ้องไปที่ถังไซหยูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและถามด้วยเสียงเยาะเย้ย "หยวนชูหลิง, คุณต้องการให้ฉันไปเป็นเพื่อนคุณเพื่อส่งถังไซหยู ไปยังห้องพยาบาลด้วยกันหรือไม่?"
"ครูมาก็ดีแล้วเราค่อยไปยังห้องพยาบาลระหว่างพัก!" การฟังเสียงเยาะเย้ยของหูไซเฉิง หยวนชูหลิงส่ายศีรษะด้วยอย่างรวดเร็วและดึงถังไซหยู กลับไปที่ที่นั่งของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าหยวนชูหลิงและถังไซหยูได้กลับไปที่ที่นั่งของพวกเขาหูไซเฉิง เดินช้าๆไปที่โต๊ะของครู
หูไชเฉิงไอเบาๆอาการทั้งห้องเงียบลง
"หลังจากคุยกับครูผู้รับผิดชอบชั้นปีที่3ในสำนักงานใหญ่แล้ว   ถังไซหยูจะไม่ได้เป็นนักเรียนห้อง5อีกต่อไป เวลาที่เหลืออีกสามเดือน ถังไซหยูจะไปที่ห้อง10เพื่อเรียนต่อ" ไซเฉิง ได้มองไปทางถังไซหยู และหยวนชูหลิง ก่อนที่จะอ่านออกเสียงรายงานในมือ
เมื่อได้ยินคำพูดของ หูไซเฉิงหัวใจของถังไซหยู หดตัวเมื่อใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาไม่กลัว แต่ถูกเตะออกจากชั้นเรียนและขอย้ายชั้นเรียนในข้อตกลงของเขาเองก็คือสองเรื่องที่แตกต่างกัน นอกจากนี้หูไซเฉิงได้อ่านข้อความแจ้งต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นทุกคนของเขาโดยไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและความรู้สึกของเขา  นี่เป็นเหมือนการตบหน้าของเขา   ถังไซหยูโกรธอย่างโนคอมเม้น
หยวนชูหลิง ไม่ได้คาดหวังว่าหูไซเฉิง จะหยุดพวกเขาจากการออกไปเพื่อประกาศไล่ถังไซหยูจากชั้นเรียน ทำให้หยวนชูหลิงรู้สึกโกรธในขณะที่ใบหน้าของเขาแดงกระปรี้กระเปร่า แต่เมื่อมองหน้าขาวของคนตายที่ถังไซหยูเขาก็ไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาเพื่ม
"นี่เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ  กับถังไซหยูที่ถูกไล่ออก คะแนนเฉลี่ยในชั้นเรียนของเราแน่นอนจะดีขึ้น!"
"ก่อนหน้านี้ผมได้คิดอย่างจริงจังแล้วถ้าถังไซหยูไม่อยู่ในห้องเราคะแนนสอบชั้นมัธยมปีที่5ของเราจะเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่เหลือ เนื่องจากการดำรงอยู่ของ ถังไซหยู ทำให้คะแนนเฉลี่ยของเราลดลงด้วยช่องว่างขนาดใหญ่ "
......
หลังจากที่หูไซเฉิง อ่านข้อความเสร็จสิ้นแล้วชั้นเรียนก็เงียบไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่เสียงปรบมือจะระเบิดออกมาจากนักเรียนที่กำลังเชียร์เสียงดัง
เมื่อได้ยินการดีใจอย่างเร่าร้อนในชั้นเรียนหยวนชูหลิงก็กำกำปั้นอย่างแน่นหนา อย่างไรก็ตามการแสดงออกของถังไซหยู นั้นสงบมากและไม่ได้เปลี่ยนไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 ครูถังไซหยู ได้ฟื้นตัวจากผลกระทบจากอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วผลการเรียนของเขาจะดีขึ้นเร็ว ๆ นี้ผมขอร้องให้คุณช่วยพูดคำไม่กี่คำในสำนักงานของอาจารย์ใหญ่เพื่อถอนการตัดสินใจ" หยวนชูหลิงก็ยืนขึ้นและอ้อนวอนเสียงดัง
"ฉันได้ฟังคำสัญญาแบบนี้อยู่หลายครั้งแล้วดังนั้นฉันจะไม่เชื่อคำสัญญาใด ๆ จากทั้งคุณและถังไซหยู นอกจากนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนหรือเพิกถอนการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากครูใหญ่ชั้นปีนอกจากนี้ฉันไม่เชื่อว่าถังไซหยู มีความสามารถในการดึงผลการเรียนของเขาได้ภายในเวลาแค่3เดือน "หูไซเฉิงตอบอย่างเย็นชาในขณะที่เขาจ้องมองที่หยวนชูหลิง